Worapon welcome you to his webblog

ยินดีต้อนรับ สู่เวบบล็อค ของผม วรพล กาญจน์วีระโยธิน
จากประสบการณ์ การเล่นและการสอนฟลู้ตมา ยี่สิบกว่าปี
ผมตั้งใจให้เวบนี้ เป็นที่ทำความรู้จักกันกับแขกที่เข้ามาเยี่ยม
เป็นที่แลกปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการเล่นฟลู้ตอีกที่หนึ่ง โดยจะพยายามเขียนบทความเกี่ยวกับการเล่นฟลู้ต จากการศึกษา และประสบการณ์ ของตัวเอง
รวมทั้งแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับคอนเสิร์ตที่จะเล่น รวมถึง ลิ้งค์ วีดิโอ ที่น่าสนใจ มานำเสนอด้วย

มีอะไรที่สงสัย เกี่ยวกับการเล่นฟลู้ต หรืออาจจะเกี่ยวกับเรื่องดนตรีทั่วไป ก็ ฝากข้อความคำถาม ได้ที่ wworapon@gmail.com ครับ


*สำหรับนักศึกษาวิชาดนตรีวิจักษ์*
*รายงานของนักศึกษาวังท่าพระให้ส่งวันสอบเลยนะครับที่เจ้าหน้าที่*

Monday, November 24, 2008

Music App. Concert แรกของเทอมนี้



Concert ครั้งแรกของเทอมนี้

โดย Bangkok Symphony Orchestra
ในรายการ The Golden Fantasy
บรรเลงเพลงจาก ภาพยนตร์ฮอลลีวูด และ ดิสนีย์

ในวันที่ 3 ธันวาคม 2551 เวลา 20:00 น.

ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (ถนนรัชดาภิเษก)

บัตรราคา 100 บาท สำหรับนักศึกษาวิชานี้




สำหรับนักศึกษาวิชา Music App. ให้ปฏิบัติดังนี้

ลงชื่อไว้ที่ท้ายบทความนี้ พร้อมเลขประจำตัว (ลงทีละ เป็นกลุ่มได้) ภายในเที่ยงของวันศุกร์ที่ 28 นี้ และบัตรมีจำนวนจำกัด คนที่ลงช้าอาจไม่มีตั๋ว

ชำระเงินค่าชมคนละ 100 บาทในชั้นเรียนวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม
วันคอนเสิร์ต ให้ไปถึงสถานที่แสดงก่อนเ วลาหนึ่งชั่วโมง เพื่อรับบัตร
ประตูจะเปิดครึ่งชั่วโมงก่อนแสดง ขณะชมคอนเสิร์ต เวลาที่วงกำลังบรรเลง ต้องไ ม่ ผลิตเสียงเด็ดขาด ทำเสียงดังได้เวลาที่วงบรรเลงจบเพลง คือปรบมือดังๆ เพื่อให้กำลังใจนักดนตรี

การบ้านที่ต้องทำคือ
1. ถ่ายรูป
ตัวเอที่่คอนเสิร์ตแนบมากับรายงาน รูปสถานที่เปล่าๆ ใช้ไม่ได้
2. รายงาน รายละเอียดคร่าวๆของคอนเสิร์ต ชิ่อวง ชื่อนักแสดง (เ ฉพาะที่เ ด่นๆ ไ ม่ต้องใ ส่ชื่อนักดนตรีมาทั้งวง) เพลงที่บรรเลง (หาได้จากสูจิบัตร พร้อม รายละเอียดของท่อนต่างๆ
3. เขียนข้อประทับใจต่อคอนเสิร์ตนี้ในแง่ต่างๆ ตามความรู้สึก มา 5 ข้อ พร้อมบรรยายแต่ไม่ต้องยาวมาก รวมกันประมาณหนึ่งหน้ากระดาษ (เฉพาะส่วนของความประทับใจ) อาจจะเป็นสถานที่ คนดู นักดนตรี นักร้อง เ สียงเ ครื่องดนตรี หรือ เพลงที่เราประทับใจ
4. งานเขียนด้วยลายมือ ส่งเป็นรูปเล่มกระดาษ ในวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม
5. ใครที่ความคิดเห็นเหมือนกับเพื่อนเปี๊ยบ ผมจะเอาคะแนนที่ได้ มาหารจำนวนเล่มที่เหมือนกัน แบ่งกันไปเท่าๆกันนะครับ

Friday, November 7, 2008

An’s Flute ที่ กรุงโซล


An’s Flute ที่ กรุงโซล

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2008 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปแสดงคอนเสิร์ตกับ BSO Strings ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ ไทย-เกาหลี รายการที่เราบรรเลงก็เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ชุดที่เราอัดแผ่น และไปทัวร์กันที่อาเซียนและญี่ปุ่นมาแล้ว บวกกับเพลงพื้นเมืองเกาหลีแถมสองเพลง
ปกติ ถ้าทัวร์รายการนี้ พวกบรรดาเหล่า woodwind ในทีมก็จะผลัดกัน solo คนละสองสามเพลงตามที่อาจารย์หม่อมหลวง อัศนี ปราโมช ท่านเรียบเรียง แต่พอดีโปรแกรมนี้ ผู้จัดไปได้ตัวน้อง ปาร์คเยรัม ซึ่งเป็นนักฟลู้ตอัจฉริยะ รุ่นเยาว์มาร่วมแสดง ก็เลยต้องยกเพลงเดี่ยวของผมสองเพลงให้เธอ ส่วนผมก็เล่นเพลงที่เหลือ ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้ piccolo เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเพลงสุดท้าย ที่เราบรรเลงเป็นเพลง อารีดัง เรียบเรียงแบบ คลาสสิก เป็นวาริเอชั่น ตอนจบ piccolo ต้องเล่นเดี่ยวทำนองสำเนียงเค้า แต่เนื่องด้วยเราก็เป็นพวกเผ่าพันธ์ใกล้เคียง เลยสามารถเล่นเพลงสำเนียงเค้าได้โดยไม่ยากเย็น

ช่วงก่อนวันแสดง ผมได้มีโอกาสไปชมย่าน Seoul Arts Center ซึ่งรวมศูนย์ศิลปะ การแสดงอยู่ที่นั่น ทั้ง โรงอุปรากร โรงคอนเสิร์ต และโรงเรียนดนตรี รวมไปถึงบรรดาร้านค้าเครื่องดนตรีที่อยู่เรียงเป็นตับไปเกือบทั้งสองข้างถนนด้านหน้า นับสิบๆร้าน แสดงให้เห็นความรุ่งเรื่องของการดนตรีที่นี่ ร้านขายโน้ตที่เกาหลีนี้ก็ดีมาก เพราะเค้าเอาโน้ต เอดิชั่นโบราณ มาพิมพ์ใหม่เป็นลิขสิทธิ์ของตัวเอง แล้วขายในราคาถูกสุดๆ เล่มละประมาณร้อยกว่าบาท จากราคาร่วม ห้าหกร้อยของสำนักพิมพ์ฝรั่ง ผมไปร้านโน้ตนี้สองครั้ง พยายามเลือกหยิบเข้า หยิบออก ไปมา ได้โน้ตเพลงกลับมา ตั้งหนึ่งสูงเกือบฟุต ใช้วัดความสูงเพราะขี้เกียจนับจำนวน แต่เงินที่จ่ายนั้น ถูกกว่าซื้อโน้ตฝรั่งล้วน อย่างต่ำครึ่งหนึ่งแน่นอน

จากร้านโน้ต ก็ขยับต่อไปที่ร้านฟลู้ต ที่จริงมีร้านขายเครื่องดนตรีหลากหลายเต็มไปหมด แต่พอดีคุณแม่ของน้องเยรัม แนะนำร้าน An’s Flute ซึ่งเป็นตัวแทนขายฟลู้ต Altus และก็เป็นร้านซ่อมด้วย เธอก็ซื้อฟลู้ตและซ่อมฟลู้ตที่นี่ เจ้าของร้านเป็นคนจิตใจดี เชื่อถือได้ และเธอก็อาสาพาไปด้วย เพราะจะเอาฟลู้ตของน้องเยรัมไปเช็ค An’s Flute เป็น เหมือน สตูดิโอ เล็ก มีส่วนรับแขกเล็กๆด้านหน้า และส่วนด้านในเป็น ส่วนซ่อมเครื่อง พอผมเข้าไปก็ได้พบกับ Mr.An เจ้าของ ก็ได้ทราบว่า เค้าไปด้เคยไปอบรบอยู่กับ Powell ที่อเมริกาอยู่หกเดือน และก็ไปอบรมที่ Altus ญี่ปุ่นด้วย เค้ามีใบประกาศฯโชว์เลย จุดประสงค์ที่ผมไปวันแรกนั้นเพื่อจะไปเลือกซื้อฟลู้ตให้ลูกศิษย์ งบประมาณ ไม่เกิน เจ็ดหมื่น เค้าก็เอาฟลู้ตมาให้เลือก เป็น Altus ตัวถูกกลางๆ ราคาร่วมแสน กับ Azumi ซึ่งเป็น second brand ของ Altus ตัวทำที่ไต้หวัน แล้วใช้ headjoint ของ Altus. เค้าเอารุ่นที่เป็นเงินทั้งตัวแบบ AG958 ซึ่งเป็นเงินแบบเข้มข้นกว่า 925 ที่ยี่ห้อนอื่นใช้ offset G, split E และก็ low B มาให้ลอง ไม่น่าเชื่อว่าคุณภาพใกล้เคียง Altus มาก โดยเฉพาะ ความเรียบของคีย์และสเกล octave ล่างเป่าสบาย octave 3 เป่าง่ายมากๆ เสียงใส และเรียบ สนนราคาที่เสนอก็น่าตกใจคือ ถูกกว่า Altus เกือบครึ่ง พอผมตกลงใจซื้อ คุณอันแกก็เอาฟลู้ตเข้าไปด้านใน ปรับแต่งอีกนิดหนึ่งออกมาให้ลอง ปรากฎว่าเครื่องยิ่งเทอร์โบกว่าเก่า เป่าง่ายลื่นเลย แกบอกว่า ปรับคีย์ นิ้วก้อยซ้ายด้วยให้มันเบาจะได้เล่นง่าย แต่เนื่องด้วยผมไม่คุ้นเลยบอกไม่ค่อยชอบ แกก็เลยหายกลับเข้าไปอีก สองนาที และก็ออกมาแบบเดิม

เราคุยกันถูกคอ แกบอกว่าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับดนตรีในเมืองไทย พอผมทราบว่าแกซ่อมฟลู้ตทุกยี่ห้อ ก็เลยเอา piccolo ไปให้แกดูในวันรุ่งขึ้น ซึ่งแกก็อนุญาตให้เข้าไปใน ห้องซ่อมด้านใน ซึ่งมีช่างหนุ่มสาว 3-4 คนอยู่ และก็มีนักเรียนอีกสองคนคนมาเรียนซ่อมอยู่ด้วย ลืมเล่าไปนิดนึงว่า ช่างซ่อมทกคนเป็นคนเล่นฟลู้ตมาก่อนทั้งนั้น โดยเฉพาะคุณอัน แกลองเป่าเครื่องที่ปรับมา ผมสังเกตว่า วิธีการเป่านั้น ละเอียดกับเรื่องริมฝีปาก และเสียงละเอียดมาก แทบไม่มีเสียงลมเลย ริมฝีปากบนล่างนี่ เฉือนกันให้ลมออกมาด้านล่างแบบบางและคมเฉียบ ผมมองแกเป่าและแอบจำมาลองฝึกดู และก็ให้ผลที่ดี น่าสนใจมาก ที่เราสามารถเรียนวิธีการเป่าฟลู้ตจากช่างซ่อมฟลู้ตได้ ที่จริงบ้านเราก็มีช่างที่ฝีมือละเอียด แต่ปัญหาคือ เค้าไม่สามารถเป่าและลองงานที่ซ่อมมาได้แบบนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับช่างฝีมือ ผมฝันว่าวันหนึ่งเราจะมีนักฟลู้ตที่ผันตัวเองไปเรียนช่าง ซึ่งจะมาช่วยเติมเต็มและส่งเสริมวงจรของการดนตรีในบ้านเราได้ ถ้าใครสนใจที่จะไปเรียนที่นี่ก็ลองบอกมานะครับ ผมจะลองถามคุณอันให้


กลับมาที่เรื่อง piccolo ของผม เป็นของยี่ห้อ burkart & phelan ซึ่งได้มาจากญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมให้คุณอันช่วยดูและปรับให้มันออกเสียงสูงได้ง่ายขึ้น piccolo ตัวนี้ให้เสียงต่ำที่กว้างและเพราะมาก แต่ออกเสียงสูง ตั้งแต่ G3 ยาก คุณอันหยิบจับดู ก็จัดการเปลี่ยนนวม trill key สองตัวบน และก็เช็คเปลี่ยนคอร์ค ที่ headjoint ให้ก่อน หลังจากมาลองแล้วยังไม่ค่อยดีขึ้น ก็ มีตัวช่วยคือ เติมวงแหวนซิลิโคน ตรงหัวของ คอร์ค เพิ่มลงไป เพื่อช่วยเวลาที่คอร์คหดตัว วงแหวนซิลิโคนนี้จะคงรูปมากกว่าช่วยให้อากาศไม่รั่วออกมา หลังจากนั้นก็มาลองอีกที ก็ปรากฎว่ายังไม่ค่อยดี คุณอันก็เลย ใช้เทียนละลายอุดตรงช่องอากาศตรงฝาครอบ headjoint อีกทีหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นวิธีโบราณของการทำหัวฟลู้ตไม้เลย หลังจากมาลองก็ดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่น่าพอใจ คุณอันก็อธิบายหลังจากพินิจพิเคราะห์ ว่าน่าจะเกิดจากการที่ headjoint ตัวนี้ มี ลักษณะพิเศษคือ ขอบของรูเป่าด้านนอกนั้นต่ำกว่าด้านใน ซึ่งเป็นผลทำให้ผลิตเสียงต่ำได้ดี แต่ก็ทำให้ผลิตเสียงสูงได้ยากขึ้น จากนั้นก็เอา piccolo ยี่ห้อ Global ที่เป็น Burkart แบบถูกให้ลองดู พร้อมกับ headjoint แบบใหม่ที่เรียกว่า ‘wave headjoint’ ซึ่งเค้ายกขอบรูเป่าด้านนอกให้สูงแหลมขึ้นมา (ดูภาพประกอบ) อันนี้เป็นวิทยาการการทำ headjoint แบบล่าสุดเพื่อช่วยให้ผลิตเสียงสูงได้ง่ายขึ้น ผมลองแล้วมันเป่าง่ายจริง แต่ไม่คุ้นเลย มันยังแปลกๆอยู่ หลังจากเสร็จสิ้นการลองปรับทุกอย่าง เจ้า piccolo ของผมก็มีเสียงดีขึ้น แม้ว่ายังเป่าเสียงสูงได้ค่อนข้างยาก แต่ก็นับว่าง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณ Mr. An ผู้ซ่อมเครื่องให้แบบไม่คิดเงิน และก็อนุญาตให้เข้าไปนั่งดู อย่างใกล้ชิด แถมให้ความรู้อีกมากมาย ถ้าบ้านเรามีคนซ่อมฟลู้ตแบบนี้ซักคนคงดีเนอะ ....
* สามารถชมรูปถ่ายที่เกาหลีได้ ที่นี่ ครับ