Worapon welcome you to his webblog

ยินดีต้อนรับ สู่เวบบล็อค ของผม วรพล กาญจน์วีระโยธิน
จากประสบการณ์ การเล่นและการสอนฟลู้ตมา ยี่สิบกว่าปี
ผมตั้งใจให้เวบนี้ เป็นที่ทำความรู้จักกันกับแขกที่เข้ามาเยี่ยม
เป็นที่แลกปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการเล่นฟลู้ตอีกที่หนึ่ง โดยจะพยายามเขียนบทความเกี่ยวกับการเล่นฟลู้ต จากการศึกษา และประสบการณ์ ของตัวเอง
รวมทั้งแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับคอนเสิร์ตที่จะเล่น รวมถึง ลิ้งค์ วีดิโอ ที่น่าสนใจ มานำเสนอด้วย

มีอะไรที่สงสัย เกี่ยวกับการเล่นฟลู้ต หรืออาจจะเกี่ยวกับเรื่องดนตรีทั่วไป ก็ ฝากข้อความคำถาม ได้ที่ wworapon@gmail.com ครับ


*สำหรับนักศึกษาวิชาดนตรีวิจักษ์*
*รายงานของนักศึกษาวังท่าพระให้ส่งวันสอบเลยนะครับที่เจ้าหน้าที่*

Wednesday, August 27, 2008

My flute sound with BSO in Japan concert 2002

Track 6 Firebird - Bangkok Symphony Orchestra

เสียงเพลงที่ฟังนี้ เป็นการอัดเสียงด้วยเครื่อง MD ซึ่งสมัยนั้นเดิ้นสุด เสียงดิจิตอลยุคแรกที่คนธรรมดาอัดกันเองได้ วางอัดตอนซ้อมใน Tokyo Opera CIty Hall เราเล่น Firebird Suite v.1947 ซึ่งใช้วงค่อนข้างเล็ก ฟลู้ตสองคน Hall นี้เสียงก้องกังวาลมาก จนเราไม่สามารถเล่นเสียงหยาบได้ เพราะมันจะชัดมาก ตอนที่ฟังเสียงครั้งแรกยังงงเลยว่าเสียงวง BSO หรือนี่ ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้ อันนี้ยืนยันคำพูดที่ว่า ห้องที่แสดงดนตรีนับเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญที่สุดอีกชิ้นหนึ่งที่ทำให้เสียงดนตรีนั้นเพราะหรือไม่

คอนเสิร์ตนี้นับเป็นครั้งแรกที่วงเราออกไปแสดงถึงญี่ปุ่น ในโตเกียวซึ่งมีวงอาชีพอยู่ร่วมสิบวง ไม่นับวงรับเชิญอีกปีละเป็นร้อยๆวง ตอนแรกก็สงสัยว่าใครจะมาดูคอนเสิร์ตวงจากโลกที่สามอย่างพวกเรา แต่ผู้ชมที่สนใจก็มาชมกันเกือบเต็มที่นั่ง สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของคอนเสิร์ตนี้ก็คือ สมเด็จพระพี่นางฯ เสด็จมาทอดพระเนตรการแสดงของวงเราถึงญี่ปุ่น พร้อมคณะผู้ติดตาม ทรงประทับอยู่ ชั้นสองตรงกลาง คล้ายกับที่ประทับในเมืองไทยของราชวงศ์ โดยปกติธรรมเนียม นักดนตรีวงเดินออกมาบนเวทีก็นั่งลงวอร์มกันเลย แต่พวกเรา เนื่องด้วยพระองค์ทรงประทับอยู่ พวกเราก็ทยอยเดินออกมาและยืนรอจนครบวง แล้วก็ถวายคำนับพร้อมกันทั้งวง ปรากฎว่าผู้ชมในHall ปรบมือเสียงกึกก้องเลย ขนลุกเลย นึกถึงภาพนั้นคงเป็นภาพที่สวยงาม พวกเราก็เล่นกันสุดใจ ตามประสาคนไทย เวลาซ้อมโอเค แต่เวลาแสดง เต็มที่สองร้อยเปอร์เซ็นต์

เพลงแรกที่บรรเลงก็เป็นเพลง Sinfonia Chakree ของ อ.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร อาจารย์เขียนเพลงได้สวยงามและยิ่งใหญ่อลังการ ผสมเสียงเพลงไทยและสมัยใหม่เข้าไป แถมช่วงท้ายอาจารย์เอาทำนองเพลงคล้ายๆส่วนหนึ่งของเพลงพระราชนิพนธ์ปลุกใจ บทหนึ่ง ฟังแล้วมันขนลุก (อีกแล้ว) ถ้ายังไงผมจะตัดต่อช่วงนั้นมาให้ฟังในโอกาสต่อไป ทั้งเพลงมันยาว 13 นาที คงลงทั้งเพลงไม่ไหว

เพลงที่สองเป็น Piano Concerto ของ Ravel ขึ้นต้นมาก็เป็น piccolo solo ซึ่งผมรับหน้าที่ เพลงนี้ เพื่อนๆ woodwind ทุกคน ทั้ง 1st และ 2nd มี part solo หมดเลย และก็เป็นโซโลที่ยากและเด่นชัดแบบทุกคนรอฟัง เพราะฉะนั้นทุกคนก็จะตื่นเต้นกับมันมาก เรามาคุยกันด้วยความสนุกสนานตอนหลังจากคอนเสิร์ตว่าระหว่างเพลงนั้น ต่างคนต่างลุ้นไม่เฉพาะ part ของตัวเอง แต่คอยฟังคนอื่นและช่วยลุ้น เวลาถึงท่อนโซโลของแต่ละคน ว่าเล่นผ่านมั้ย ตลอดเพลง

เพลงสุดท้ายซึ่งอยู่ครึ่งหลังก็คือเพลง Firebird Suite Version 1947 ของ Stravinsky พวกเราเคยเล่นเพลงนี้มาก่อนใน Version 1919 ซึ่งสั้นกว่าและเป็นวงใหญ่กว่า part flute มีสามคน แต่ชุดนี้ใช้แค่สองคน ทำให้เราต้องรับโน้ตมาแบ่งกันเล่นเยอะขึ้น ท่อนหนึ่งที่ยากที่สุดคือ ท่อนที่สอง (Track 2) มีโน้ต6พยางค์ กระโดดขึ้นลง ทั้ง slur และ staccato และก็ต้องเล่นให้ไหลต่อกัน โน้ตของ Stravinsky ก็ไม่ใช่โน้ตในสเกลที่เราคุ้น แต่ละวรรคไม่มีทาง sight read ต้องนั่งแกะกันไปทีละวรรคเลย ทั้ง่อนยาวแค่สองนาที แต่ซ้อมกันแทบแย่Track 2 Firebird - Bangkok Symphony OrchestraTrack ที่ 6 น่าจะเป็นท่อนที่เพราะที่สุด เริ่มด้วยเสียงฟลู้ตโน้ต F# 3 ซึ่งเริ่มต้นแบบห้ามดัง ตอนเล่นก็มีลุ้นว่าจะมาตามนัดมั้ย แต่ก็ผ่านไปด้วยดี จุดเด่นคือเสียงโอโบ โดย อ.ดำริห์ ในท่อนนี้ บอกได้คำเดียวว่า world class (ในความคิดของผม)

ยังไงก็ลองอดทนรอโหลดฟังกันดูนะครับ เสียงคงไม่เลิศเลอเหมือนแผ่นจริง แต่อัดแน่นด้วยวิญญาน :-)



Track 9 Firebird Finale - Bangkok Symphony Orchestra

No comments: